สวอนซี ซิตี้ 2 – 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

รีพอร์ต

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องปราชัยให้กับสวอนซี ซิตี้อีกครั้งที่ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม ด้วยสกอร์เหมือนเดิมคือ 2-1 ซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งที่ 4 แล้วสำหรับทีมหงส์ขาวในการเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5 เกมหลังรวมทุกรายการ และยังเป็นการฉลองคุมทีมครบ 50 เกมอันแสนขมขื่นสำหรับ หลุยส์ ฟาน กัล ด้วย

ครึ่งแรกจบลงแบบไร้สกอร์ ขณะที่ในครึ่งหลังเป็นทีมปีศาจแดงที่เริ่มต้นเกมได้ดีกว่า และก็มาออกนำไปก่อนจากประตูของ ฮวน มาต้า แต่ความได้เปรียบนั้นก็คงอยู่ไม่นาน เมื่อทีมของ แกรี่ มังค์ มาตีเสมอได้ในอีก 12 นาทีถัดมาจากลูกโขกของ อันเดร อายิว จากนั้นทีมหงส์ขาวก็มาพลิกขึ้นนำในอีกเพียงแค่ 5 นาทีถัดมาเมื่ออายิวจ่ายบอลให้ บาเฟติมบี้ โกมิส ซัดเข้าไป

เกมนี้ อันเดร์ เอร์เรร่า ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง หลังจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมกับคลับ บรูจจ์เมื่อกลางสัปดาห์ เขายืนในตำแหน่งนักเตะหมายเลข 10 ข้างหลัง เวย์น รูนี่ย์ ส่วน มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน และ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ได้ยืนคู่กันในแผงมิดฟิลด์

ทีมปีศาจแดงมีสถิติพบกับสวอนซี ซิตี้ในระยะหลังไม่ค่อยดีนัก เมื่อแพ้ถึง 3 จาก 4 ครั้งหลังสุดทั้งในลีกและบอลถ้วย มาคราวนี้เป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ได้โอกาสลุ้นก่อนจากการยิงฟรีคิกของ เมมฟิส เดปาย แต่บอลก็ไปติดเซฟของ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ จากนั้นในจังหวะต่อมา มาต้าก็มายิงข้ามคานออกไป ถือว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเริ่มต้นเกมได้อย่างน่ากลัว

โอกาสที่น่าจะเป็นประตูของทีมปีศาจแดงมาถึงอีกในนาทีที่ 19 และสวอนซี ซิตี้ก็ได้กัปตันทีมอย่าง แอชลี่ย์ วิลเลียมส์ มาช่วยเอาไว้ได้ในจังหวะสุดท้าย เมื่อเขาฉกบอลจากเท้ารูนี่ย์ในจังหวะที่ ลุค ชอว์ แทงทะลุช่องมาให้แบบสุดสวย จากนั้น 2 นาทีถัดมา เมมฟิสก็ลากตัดเข้าในจากฝั่งซ้าย ก่อนจะจ่ายต่อให้เอร์เรร่าในกรอบเขตโทษ บอลถูกผ่านมาถึงมาต้าซึ่งมีกองหลังวิ่งเข้ากดดัน และเขาก็ซัดหลุดกรอบออกไป

สวอนซี ซิตี้เองก็มาได้โอกาสเหมือนกันจากลูกฟรีคิกของ จอนโจ เชลวี่ย์ ขณะที่ กิลฟี่ ซิเกิร์ดสัน ยิงบอลผ่านมือ เซร์คิโอ โรเมโร่ ไปได้แล้ว แต่บอลก็ถากเสาออกหลังไปนิดเดียว จากนั้นผู้รักษาประตูชาวอาร์เจนตินามาเตะบอลพลาดไปเข้าทางปืนเชลวี่ย์ที่ระยะ 25 หลา แต่ยังดีที่ลูกยิงของเขาไม่แรงพอที่จะผ่านมือนายทวารแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปได้ ทีมหงส์ขาวมาได้โอกาสที่ใกล้เคียงสุดๆ จากการยิงของโกมิส ซึ่งลากตัดเข้าในจากฝั่งขวา ก่อนที่ลูกยิงของเขาจะไปแฉลบเสาไกลออกหลังหวุดหวิด

เอร์เรร่าซึ่งทำประตูได้ในเกมเมื่อฤดูกาลก่อนที่ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยมมาลองยิงไกลจากระยะ 25 หลาก่อนจบครึ่งแรก แต่บอลก็ออกหลังไป

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเริ่มต้นครึ่งหลังได้ดี และไม่นานนักมาต้าก็มาทำประตูที่ 50 บนเกาะอังกฤษได้สำเร็จในนาทีที่ 49 ช่วยให้ทีมปีศาจแดงออกนำ 1-0 มันเกิดขึ้นหลังจากการเติมเกมแบบสุดสวยของชอว์ทางฝั่งซ้าย บอลถูกจ่ายมาในกรอบเขตโทษ รูนี่ย์ปล่อยให้บอลตกไปที่เสาไกล และก็เป็นมาต้าที่เข้าถึงบอลก่อนวิลเลียมส์ ซึ่งเขาก็ซัดเสยพาดานตาข่ายเข้าไป

ทีมปีศาจแดงเกือบจะบวกเพิ่มได้อีกเมื่อลูกครอสจากเมมฟิสไปแฉลบเท้าวิลเลียมส์ผิดทางเกือบเข้าประตูตัวเอง แต่ยังดีที่ฟาเบียนสกี้สามารถปัดเอาไว้ได้ปลายนิ้ว นายทวารหงส์ขาวต้องมาออกแรงเซฟอีกครั้ง คราวนี้มาจากจังหวะที่เอร์เรร่าแทงทะลุช่องให้มาต้าหลุดไปยิงทางด้านซ้าย แต่บอลก็เบาเกินไป

เกมรุกที่ไม่เด็ดขาดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาส่งผลเสียหาย เมื่อวิลเลียมส์ตัดบอลได้จากรูนี่ย์แล้วเล่นสวนกลับเร็ว บอลมาถึงซิเกิร์ดสันทางฝั่งขวา และเขาก็ครอสบอลไปเข้าหัวอายิวซึ่งโขกเข้าไปเป็นลูกตีเสมอ

สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงไปอีกสำหรับทีมปีศาจแดงในอีก 5 นาทีถัดมาเมื่อโกมิสยิงให้เจ้าถิ่นพลิกขึ้นนำ เป็นอายิวที่จ่ายบอลด้วยข้างเท้าด้านนอกแบบสุดสวยให้ศูนย์หน้ารายนี้ของสวอนซีซัดผ่านมือโรเมโร่ที่บล็อคไม่ทันเข้าไปสู่ก้นตาข่าย

ไมเคิล คาร์ริค กับ แอชลี่ย์ ยัง ถูกส่งลงมาแทนชไนเดอร์ลินและมาต้า ก่อนที่ มารูยาน เฟลไลนี่ จะได้ลงมาเล่นแทนเอร์เรร่า ในขณะที่ทีมปีศาจแดงกำลังเร่งเกมบุกหวังทำประตูตีเสมอ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ครองบอลเป็นส่วนใหญ่ และยังก็ได้ครอสบอลเข้ากรอบเขตโทษบ่อยครั้ง แต่แนวรับของสวอนซี ซิตี้ ก็สามารถสกัดเอาไว้ได้หมด ขณะที่เหลือเวลาอีก 3 นาที รูนี่ย์ได้โอกาสลุ้นประตู แต่วิลเลียมส์ก็ยังสกัดพ้นอันตรายเอาไว้ได้อีก

นั่นคือโอกาสครั้งสุดท้ายสำหรับทีมปีศาจแดง ก่อนที่จะต้องพบกับความผิดหวังอีกครั้งที่เวลส์ตอนใต้ และต้องเดินทางกลับไปโดยที่ไม่มีสักคะแนนติดมือ

สถิติ


Related Posts